วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Lorenzo Races with the Champions in Bangkok


     เจ้าของแชมป์โลก2ล้อระดับโลกในรายการMotoGP "ฮอร์เก้ ลอเลนโซ่" มีโอกาสมาเยือนเมืองไทยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Race of Champion เป็นครั้งแรกของเจ้าตัว โดยมีการจัดการเนรมิตแทร็คการแข่งขันขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีนักแข่งมากฝีมือเข้าร่วมการแข่งขันมากมายเช่น เซบาสเตียน เวทเทล และ ไม่เคิล ชูมัคเกอร์ สองนักแข่งจากรถสูตรหนึ่งฟอร์มูล่าวันนั่นเอง ซึ่งเป้าหมายของการแข่งรายการนี้ก็เพื่อสร้างความบันเทิงให้ผู้ชมมากกว่าผลแพ้ชนะที่มี
โดยที่ฮอร์เก้ ลอเลนโซ่ ก็ได้กล่าวว่า "มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆที่ได้กลับมาเยือนเมืองไทยอีกคำรบหนึ่ง ชาวไทยให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี และยังรู้สึกสนุกกับการได้ขับรถยนต์ร่วมแข่งขันในรายการนี้ ถึงแม้ว่าจะต้องเจอคนเก่งๆระดับโลกมากมายก็ตาม และไม่วายแอบแซวว่าคราวหน้าจะให้พวกเขามาลองขี่สองล้อแข่งกับเขาดูบ้าง และหวังว่าปีหน้าเขาจะมีโอกาสได้กลับมาแข่งขันอีกในประเทศไทย"

-ขอบคุณรูปภาพจาก www.motogp.com

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คริสมาส วิไลโรจน์

     อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันคริสมาสแล้ว ผมก็เกิดนึกถึงใครบางคนขึ้นมาซะอย่างนั้น "คริสมาส วิไลโรจน์" ตำนานนักบิดของสยามประเทศ ที่ได้ไปสร้างชื่อเสียงไว้กระหึ่มในระดับโลกเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
กับตำนานที่ยากที่จะมีใครทำได้ก็คือ แชมป์มาเก๊ากรังด์ปรีซ์ ได้ถึง5สมัย ยังไม่รวมแชมป์อีกมากมายที่ทำได้ภายในประเทศ ตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ทางฝุ่น หรือแม้แต่รถยนต์เอง "น้าจั๊บ" ก็เคยไปคว้าแชมป์มาแล้ว ซึ่งจนถึงวันนี้เราก็ได้แต่ระลึกถึงความสามารถและชื่อเสียงที่น้าจั๊บได้สร้างเอาไว้ให้พวกเราได้ชมกัน
     คริสมาส เสียชีวติด้วยวัย47ปี เมื่อคืนวันที่ 2ธันวาคม 2553 ด้วยโรคมะเร็งตับ อย่างไรก็ตาม ทายาทของเขาก็ยังจะเดินหน้าสีบสานตำนานของผู้เป็นพ่อให้ยังคงเดินหน้าต่อไป "ฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ก็ยังลงเข้าแข่งขันในรายการสองล้อระดับโลกMotoGP ในรุ่นของMoto2 ซึ่งเราก็หวังว่าเขาก็จะประสบความสำเร็จไปไม่น้อยกว่าผู้เป็นบิดาอย่างแน่นอน.........
ด้านซ้ายคือNSR250SP(MC28)รถแข่งคันแรกๆที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ด้านขวาคือ CBR1000 รถคันสุดท้ายที่เขาใช้แข่งขัน

-ขอบคุณภาพจาก www.thairidersclub.com 

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

MFJ All Japan Road Race Championship's Champion


     วันนี้นึกอยากจะกล่าวถึงคนไทยคนหนึ่งที่ไปสร้างชื่อเสียงระดับเอเชีย หรือก็น้องๆระดับโลกเลย เพราะว่ามีผู้เข้าแข่งขันจากหลายชาติที่มาร่วมทำการแข่งขันที่มีมายาวนานถึง 46ปีเลยทีเดียว นั่นก็คือ  “ตั้น สลาตัน” เดชา ไกรศาสตร์ นั่นเอง ทั้งยังมีคู่หูนักบิดอีกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วยก็คือ  “เบียร์” เฉลิมพล ผลไม้ โดยที่ทั้ง2มาจากทีม “ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญด้วยการเป็นแชมป์ในรายการ MFJ All Japan Road Race Championship ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ไปคว้าถ้วยแชมป์กลับมาได้ โดยที่ต้องวัดกันจนถึงสนามที่7ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายที่จัดขึ้นที่สนามซูซูกะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็เกิดเหตุไม่คาดคิด โดยที่ เดชา ล้มลงในการแข่งขันรอบที่4 เนื่องจากมีฝนตกลงมาพอสมควร ทำให้การควบคุมรถเป็นไปด้วยความลำบากมากจนทำให้ล้มลงไปและไม่สามารถจบการแข่งขันได้ แต่ นากาโตมิ นักบิดชาวญี่ปุ่น ที่มีคะแนนตามมาเป็นอันดับ2 ก็ล้มลงไปในรอบที่2 เช่นกัน ถึงแม้จะนำรถขึ้นมาแข่งได้ต่อ แต่ไม่สามารถทำอันดับได้ดี จึงมีคะแนนรวมตามหลังเดชาอยู่ จึงส่งผลให้ เดชากลายเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ พร้อมยกให้เป็นรางวัลของคนไทยทุกคนที่ร่วมส่งใจเชียร์ด้วย
ฝนตกลงมาทำให้การควบคุมรถเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ถึงแม้จะมีฝนตกแต่เดชาก็สู้เต็มที่
สภาพของรถแข่ง หลังจากล้มในรอบที่4 จนไม่สามารถจบการแข่งขันได้
แต่สุดท้ายก็คว้าตำแหน่งแชมป์พร้อมนำธงไตรรงค์ไปโบกสะบัดให้โลกได้ชม
      และนี่ก็คือตัวอย่างอีกคนหนึ่งที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าคนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเหมือนกัน ซึ่งหนทางกว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องใช้เวลายาวนาน ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม เรียนรู้ และพัฒนา จนกว่าจะมีวันนี้ จึงอยากให้ทุกๆท่านเอาเป็นแบบอย่างเพื่อนำไปใช้กับชีวิตของตนเอง เพราะเมื่อเราตั้งใจทำอะไรแล้ว มีการฝึกซ้อม เรียนรู้ และพัฒนาอยู่เสมอแล้วหล่ะก็ เราก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างที่ เดชา ไกรศาสตร์ ได้ทำสำเร็จในครั้งนี้

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Kawasaki Endurance 3hr 2012





     สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่ติดตามบล็อคของผมอยู่ หายหน้าหายตากันไปราวๆ1สัปดาห์ ผมก็ได้ไปสรรหากิจกรรมต่างๆมาเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆนะครับ
     สัปดาห์ที่ผ่านมา(2 ธ.ค. 2555) ผมได้มีโอกาสไปแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบในรายการ
Kawasaki Endurance 3hr 2012 ณ สนามพีระเซอร์กิตฯ พัทยามาครับ กติกาคร่าวๆของรายการนี้ก็คือ เป็นการแข่งขันใหญ่ประจำปีของค่ายแตนเขียวKawasaki ที่จัดกันเป็นประจำในช่วงปลายปี ซึ่งในปีนี้ผมก็ได้มีโอกาสไปร่วมเข้าแข่งขันด้วยรถ KSR110 เจ้าตัวเล็กนั่นเอง
     ซึ่งการแข่งขันนั้นก็จะเริ่มกันตั้งแต่เช้า โดยแบ่งการแข่งขันออกดังนี้ครับ
 ER-6n / Ninja650 / Dtracker250/ Versys Circuit Fun-Riding/Ninja 250R
KSR 3hrs.Enduranceรุ่นStock/Modify/Open

     ผมก็มีภาพในรุ่นการแข่งขันต่างๆ และก็รูปที่ผมไปแข่งมาแบ่งปันให้ได้ชมกันนะครับ
เตรียมตัวออกเดินทางไปสนามแต่เช้าตรู่

ถึงสนามสายมาก เกือบสมัครไม่ทัน และก็อดซ้อมด้วย(เศร้าเลย)
สำหรับรุ่นStockที่ผมลงแข่งขันนั้นมีรถทั้งหมด20กว่าคัน และเนื่องจากมาสมัครสาย จึงต้องออกสตาร์ทในตำแหน่งรองโหล่(เศร้าเลย)
ผม(หมวกเหลืองเขียว)พยายามเข้าโค้งให้ไวที่สุด(ตัวใหญ่เสียเปรียบมาก- -:)
ภาพสวยๆจากรุ่นพี่ที่ไปด้วยกัน ขอบคุณมากครับ(ถ่ายผมได้ผอมดี อิอิ)



ขี่กันนานหลายชั่วโมง จนเริ่มไม่รู้ว่าจะเอามือไปวางไว้ตรงไหนดี
หลังจากผ่านไป3ชั่วโมง ก็ได้รับธงตราหมากรุกซะที มีทั้งขี่เข้าเส้นชัย และเข็นเข้าเส้นชัย
ก็ได้อันดับที่5มาครองในรุ่นKSR Stock ด้วยจำนวนรอบที่ทำได้คือ103รอบ เป็นรองที่3และ4เพียงแค่รอบเดียว
ผม(คนขวาสุด)และพี่ๆน้องๆอีกทีมที่ได้ที่3 ชักภาพร่วมกันพร้อมถ้วยรางวัล แห่งความภาคภูมิใจ
     ก็เป็นอันจบลงไปแล้วนะครับสำหรับการแข่งขันหฤโหดแห่งปีรายการเดียวในประเทศไทยสำหรับ Kawasaki Endurance 3hr 2012 ที่ผู้เข้าแข่งขันที่นอกจากจะต้องมีฝีมือพอตัวแล้ว รถที่ใช้ทำการแข่งขันก็ต้องมีความทนทานในการใช้งานอย่างเต็มสมรรถนะในเวลาถึง3ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่าต้องอึดทั้งคนทั้งรถเลย ซึ่งรางวัลที่ได้มาอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็เป็นความสุขที่ได้ทำสิ่งที่ใจรัก ส่วนรางวัลก็เป็นเพียงตัวตอบแทนของคุณค่าแห่งความพยายามเท่านั้น และผมก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนเห็นว่าการแข่งรถนั้น รูปร่างถึงแม้จะเป็นอุปสรรค แต่ถ้าเรามีความพยายามเราก็สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นๆทำได้เช่นกัน ส่วนรางวัลที่ตัวผมได้รับนั้น นอกจากถ้วยรางวัลแล้ว ก็คงเป็นมิตรภาพทั้งในและนอกสนามแข่ง ที่พี่ๆน้องๆให้ความช่วยเหลือกัน พูดคุยทักทายกัน ได้รู้จักกับการให้อภัย รู้แพ้ รู้ชนะกันทั้งในและนอกสนาม  นี่ต่างหากคือรางวัลที่ผมได้รับในทุกๆครั้งที่ผมเข้าร่วมทำการแข่งขัน หรือไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันก็ตาม แล้วปีหน้าฟ้าใหม่ ไม่ว่ารายการนี้จะยังคงอยู่ หรือผมจะยังขี่รถไหวอยู่หรือไม่นั้น เราคงได้เจอกันอีกครั้งนะครับ